โฟเลต / กรดโฟลิก (Folic Acid)
ป้องกันความพิการของทารกในครรภ์
ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ
รักษาโรคโลหิตจางชนิดเมทะโลบลาสต์
ชื่อทางเคมี
กรดโฟลิก (Folic Acid), โฟลาซิน (Folacin)
ค่า RDA สำหรับผู้ใหญ่
200 ไมโครกรัม
แหล่งกรดโฟลิกที่สำคัญ (ปริมาณเป็นหน่วยไมโคมกรัมต่ออาหาร 100 กรัม)
ตับวัว 290 ไมโครกรัม/100 กรัม, ธัญพืชเสริมวิตามิน 250 ไมโครกรัม/100 กรัม, ถั่วแบล็กอาย 210 ไมโครกรัม/100 กรัม, กะหล่ำดาว 110 ไมโครกรัม/100 กรัม, ถั่วลิสง 110 ไมโครกรัม/100 กรัม, ปวยเล้ง 90 ไมโครกรัม/100 กรัม, บรอกโคลี่ 64 ไมโครกรัม/100 กรัม, ผักกาดหอม 55 ไมโครกรัม/100 กรัม, อะโวกาโด 11 ไมโครกรัม/100 กรัม
โฟเลต ออกฤทธิ์อย่างไร
กรดโฟลิกคือโฟเลตที่เกิดจากการสังเคราะห์เพื่อใช้ในอุตสาหรกรรมอาหารเสริม และใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารเพื่อเสริมโฟเลต เช่น ผสมในธัญพืชและยีสต์สกัด ร่างกายสามารถดูดซึมกรดโฟลิกได้ดีกว่ากรดโฟเลต
โฟเลตมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อพัฒนาไขสันหลังที่สมบูรณ์ของตัวอ่อนในช่วง 2-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ช่วยป้องกันโรคกระดูกสันหลังโหว่ (Spina Bifida)
โฟเลตยังมีความจำเป็นยิ่งเพื่อสร้าง เม็ดเลือดแดงที่มีคุณภาพ และช่วยลดระดับโฮโมซีสเทอีน ซึ่งหากมีระดับสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โฟเลตยังจำเป็นเพื่อสลายโปรตีนในร่างกาย
ตัวช่วยดูดซึม
กินโฟเลตพร้อมอาหารดีที่สุด วิตามินบีรวม (โดยเฉพาะวิตามินบี 12) ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโฟเลตได้ดียิ่งขึ้น
ตัวยับยั้งการดูดซึม
การกินสุราครั้งละมากๆ เป็นประจำ จะทำให้ระดับโฟเลตในร่างกายลดต่ำลง ยาแก้ปวดแอสไพริน ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือยา Biguanides และ Metformin (ใช้สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน) ล้วนลดระดับโฟเลตในร่างกายได้เช่นกัน
ข้อควรระวัง
การได้รับกรดโฟลิกติดต่อกันเป็นเวลานานอาจรบกวนการดูดซึมเกลือแร่สังกะสะในร่างกาย และอาจจะกลบเกลี่ยนอาการขาดวิตามินบี 12 ในการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดของผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคลมชักควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้ เพราะกรดโฟลิกสามารถลดฤทธิ์ของยาต้านการชัก
ประโยชน์ของกรดโฟลิกในการรักษาโรค
- โรคหัวใจ การกินกรดโฟลิกเสริมอาจช่วยป้องกันอัตราตายด้วยโรคหัวใจในชายได้ร้อยละ 7 และอัตราตายที่เกิดจากหลอดเลือดหัวใจในหญิงได้ร้อยละ 5
- โรคโลหิตจาง อาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียที่เกิดจากโรคโลหิตจาง (เนื่องจากได้รับกรดโฟลิกต่ำเกินไป) สามารถรักษาได้โดยการกินผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิก ภาวะโลหิตจางในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ก็สามารถรักษาได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 12 กรดโฟลิก และเหล็กร่วมกัน
- มะเร็งคอมดลูก สตรีที่กินยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดและขณะเดียวกันมีระดับโฟเลตในกระแสเลือดลดต่ำลง อาจเสี่ยงต่อการเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่คอมดลูกซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้ พบจากการตัดเนื้อเยื่อมดลูกส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการว่าการเสริมด้วยโฟเลตขนาด 10 มิลลิกรัมทุกวัน ช่วยให้เซลล์มีพัฒนาการดีขึ้นภายในสามเดือน
- ภาวะกระดูกพรุน สารโฮโมซึสเทอีนที่เพิ่มขึ้นหลังหมดประจำเดือนจะรบกวนการสร้างกระดูก นำไปสู่ภาวะกระดูกพรุน กรดโฟลิกขนาด 5 มิลลิกรัม/วัน อาจทำให้กระดูกแข็งแรง และลดความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนโดยลดระดับของโฮโมซีเทอีน
- ซึมเศร้า การเพิ่มปริมาณโฮโมซีสเทอีน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอารมณ์ไม่แจ่มใส ซึมเศร้า ผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิกจะช่วยลดระดับโฮโมซีสเทอีนลงได้
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
บีซีวี (BCV) : (บำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ, ลดไขมันหลอดเลือด, ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น)