สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor)

สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor)

 

 

     เราได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ และมีคำถามบางข้อที่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาเท่านั้นที่สามารถให้คำตอบที่ดี  ดังนั้นเมื่อเราได้ยินว่า Dr. David Vollmer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ บริษัท 4ไล้ฟ์ รีเสิร์ช จะเข้ามาในเมืองเราจึงใช้โอกาสนี้ในการสัมภาษณ์เขาอย่างรวดเร็ว

     4Life Research เป็น บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์  ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ซึ่งบริษัทได้พัฒนาและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการสกัด ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เพื่อการบริโภคของมนุษย์  เรามี 8 คำถามที่เราถาม ดร. วอลเมอร์ เกี่ยวกับ ทรานสเฟอร์ แฟคเตอร์

 

     1. ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ในตลาดอย่างไร?

      เมื่อผมนึกถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ในตลาด  ผมมักจะนึกถึง วิตามิน, แร่ธาตุ และสมุนไพร แต่ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย  ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นสารสกัดจากน้ำนมเหลืองที่มีความซับซ้อนสูงของเปปไทด์และโปรตีนที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ  คุณไม่สามารถเห็นสิ่งนี้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่

     ลักษณะเฉพาะของ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ไม่เหมือนสมุนไพร, แร่ธาตุ หรือวิตามินใดๆ  ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ สอนเซลล์ภูมิคุ้มกันของเราให้รู้ว่าเมื่อไรจะออกไป และค้นหาเป้าหมายที่กำลังจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ  ซึ่งแตกต่างจากส่วนผสมอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด

 

    2. ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ ปลอดภัยแค่ไหน เมื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ?

     ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ มันมาจากวัวและไก่  ดังนั้นเมื่อมาจากธรรมชาติ มันจึงมีความปลอดภัยสูงมาก เมื่อใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  อย่างไรก็ตาม 4ไล้ฟ์ ได้ทำการศึกษาจำนวนมากเพื่อแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการศึกษาทางพิษวิทยา เป็นการศึกษาเพื่อสนับสนุนการศึกษาด้านกฎระเบียบทั่วโลก ในการศึกษาที่เราทำเกี่ยวกับความเป็นพิษ เราไม่พบระดับความเป็นพิษ   ดังนั้นเราจึงให้ ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ ระดับสูงขึ้น  เราไม่พบว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ กระตุ้นการตอบสนองทางพิษวิทยาที่จะให้ความรู้สึกว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ไม่ปลอดภัย

     จากการศึกษาเหล่านี้ และจากความจริงที่ว่าเราขาย ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว และเรามีคนหลายล้านคนที่บริโภค ทรานสเฟอร์แฟกเตอร์  เป็นจำนวนหลายล้านแคปซูลแล้ว  และเราไม่เคยมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง  ดังนั้นจากประวัติการบริโภค เราสามารถพูดได้อย่างมั่นใจในระดับสูงว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ปลอดภัยสำหรับเด็ก,ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

 

     3. ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ จะช่วยให้เราเอาชนะความท้าทายด้านสุขภาพหลายประการที่เรามีในปัจจุบันได้อย่างไร?

     ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นส่วนผสมด้านสุขภาพภูมิคุ้มกัน  เรารู้ว่าระบบภูมิคุ้มกันเกี่ยวข้องกับสุขภาพหลายด้านในร่างกายของเรา  ดังนั้น ถ้าเรามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด ระบบภูมิคุ้มกันที่สมดุล  เรารู้ว่าเราจะต้องมีสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน   เมื่อเราเริ่มบริโภค ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ  เราจะเห็นประโยชน์ของการมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด และสุขภาพโดยรวมของเราจะดีขึ้นมาก 

 

     4. ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ดีมาก  แต่ทำไมเราถึงได้ยินเกี่ยวกับมันน้อยมาก เมื่อเทียบกับวิตามิน, แร่ธาตุ และสมุนไพร?

     นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจ เพราะคนจะไม่นึกถึง ทรานเฟอร์แฟคเตอร์  เมื่อพวกเขาพูดถึง น้ำนมเหลือง (โคลอสตรัม) หรือไข่  แต่เรารู้ว่าน้ำนมเหลืองและไข่มีประโยชน์ที่ยอดเยี่ยม  แม่วัวให้น้ำนมเหลือง (โคลอสตรัม) แก่ลูกวัวเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกของพวกมัน  นอกจากนี้ คนและสัตว์อื่นๆ ก็ให้น้ำนมเหลืองแก่เด็กทารกและเด็กแรกเกิดเพื่อช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขา  เป็นเวลานานที่ผู้คนไม่รู้ว่ามันมีอะไรในนมน้ำเหลืองหรือไข่ที่ให้ประโยชน์นั้น  และเป็นเวลา 30 ปีที่ผ่านมาที่เราได้ตระหนักว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่ได้ถูกค้นพบเมื่อนานมาแล้ว (เกือบ 70 ปีที่แล้ว) มีอยู่ในน้ำนมน้ำเหลือง

     การวิจัยจำนวนมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ระบุว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นไบโอเปปไทด์ชีวภาพขนาดเล็กที่ให้ประโยชน์ทางภูมิคุ้มกัน   ในบางครั้ง เรารู้ว่าเราได้รับประโยชน์มากมายจากแหล่งที่มาของ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์   แต่เราไม่รู้ว่ามันเป็นทรานเฟอร์แฟคเตอร์  ดังนั้นความรู้เรื่อง ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นเพียงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา  เมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซึ่งมีการค้นพบตั้งแต่ต้นปี 1900  และ ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์, สมุนไพร ซึ่งได้มีการศึกษามานานหลายร้อย หลายพันปีแล้ว   แนวคิดเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนหรือส่วนผสมอายุรเวท สิ่งเหล่านั้นมีมานานหลายร้อยปี  ผู้คนจดจำถึงสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย   ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ซึ่งสกัดจากน้ำนมเหลือง (โคลอสตรัม) และไข่ ได้มีการค้นพบเพียงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา

 

     5. ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ ที่สกัดจากเลือด และ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่สกัดจากน้ำนมเหลืองของวัวเหมือนกันหรือไม่?

     เมื่อเราเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ และศึกษากลไกการออกฤทธิ์ของมัน  เรายังได้ศึกษา ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ ที่สกัดจากเลือดหรือเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็น ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เดียวกันกับที่ Dr. Sherwood Lawrence ได้ค้นพบ  เราใช้งานวิจัยเหล่านี้ในตอนแรกที่เราสกัด ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ของเราซึ่งได้มาจากน้ำนมเหลือง (โคลอสตรัม) และเราก็ได้รับผลลัพธ์เช่นเดียวกันกับในงานวิจัย  เราได้งานวิจัยของเซลล์เพชฌฆาต (Natural Killer Cells) ที่เราวัดการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

     เมื่อเราทดสอบ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ของ Dr. Sherwood Lawrence ที่สกัดมาจากเม็ดเลือดขาว  และเราทดสอบ ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ ที่เราสกัดได้จากน้ำนมเหลือง (โคอลอสตรัม)  เราได้ผลการทดสอบของการตอบสนองแบบเดียวกัน  นั่นบอกเราว่าการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันไม่ว่าจะเป็น ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่สกัดออกจากเลือด หรือ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่สกัดออกมาจากน้ำนมเหลือง (โคลอสตรัม) หรือไข่ ก็ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน นั่นทำให้เรามั่นใจว่าจะได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกัน ที่ Dr. Sherwood Lawrence เห็นในแง่ของการถ่ายโอนภูมิคุ้มกันจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนนั้น เป็นประโยชน์แบบเดียวกับที่เราได้รับเมื่อเราทาน ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ จากน้ำนมเหลืองหรือไข่

 

     6. ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่ถูกฉีดเข้าไปในมนุษย์และ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่บริโภคด้วยปากจะได้ผลเหมือนกันหรือไม่?

      เราจะได้ผลลัพธ์ในแบบเดียวกัน  มันเป็นการนำส่งและกลไกที่แตกต่างกัน  เมื่อเราบริโภค ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ เข้าไป  เรามีลำไส้และระบบย่อยอาหาร หรือ Peyers Patch (ต่อมในลำไส้) ซึ่งเป็นวิธีที่จะนำมา ทรานสเฟอร์แฟกเตอร์ จากกระเพาะเข้าสู่กระแสเลือด  เมื่อ ทรานสเฟอร์แฟกเตอร์ เข้าสู่กระแสเลือด  พวกมันทำหน้าที่เหมือน ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ที่ฉีดเข้าไปในเลือดของเรา

 

    7. คุณคิดว่า ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ในอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร?

     ผมคิดว่าจะมีการค้นพบมากมายยิ่งขึ้น  ในขณะนี้ เรามีเครื่องมือจำนวนมาก  จากการวิจัยของเราใน 10 – 15 ปีที่ผ่านมา  มันช่วยให้เราดู ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ในระดับโมเลกุล ย้อนกลับไปในปี 1930  และ 1940 เมื่อ Dr. Sherwood Lawrence ค้นพบ ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เป็นครั้งแรก  เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาไม่รู้ว่าพวกมันเป็นเปปไทด์หรือโอลิโกนิวคลีโอไทด์  เขาไม่รู้ว่าจะศึกษามันอย่างไร เขาแค่รู้ว่าพวกมันถ่ายทอดภูมิคุ้มกันจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง  และพวกมันมีอยู่ในเม็ดเลือดขาว

     มีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ตอนนี้เรารู้แล้วว่าพวกมันคืออะไร; พวกมันเป็นเปปไทด์ชีวภาพและโปรตีน  ขั้นตอนต่อไปของการจำแนกลักษณะ คือการรู้จัก ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ ในระดับกรดอะมิโน  เมื่อเราเรียนรู้เกี่ยวกับ ทรานสเฟอร์แฟกเตอร์ มากขึ้น  เราสามารถอธิบายลักษณะเหล่านั้นได้มากขึ้น  เราจะได้เรียนรู้ถึงประโยชน์ใหม่ๆ มากมาย  เราอาจจะมีส่วนผสมใหม่ๆ  หรือ เราอาจมีการพัฒนา ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ในระดับสูงขึ้นไป ในอีก 5 หรือ 10 ปี ข้างหน้า

 

      8. เพื่อประโยชน์ของผู้อ่านของเรา  คุณจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้น?

     พวกเขาต้องบริโภค ทรานเฟอร์แฟคเตอร์  นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้ผู้คนได้รู้  ยิ่งกว่านั้นเราต้องรู้ว่าระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างไร เราจะคงความมีสุขภาพที่ดีได้อย่างไร

     ดังนั้นถ้าเราบริโภค ทรานเฟอร์แฟกเตอร์ เรายังต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการกินที่ถูกต้อง รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ กินผักและผลไม้ และให้แน่ใจว่าเราได้รับวิตามินและแร่ธาตุทั้งหมดที่จะทำให้เรามีสุขภาพโดยรวมที่ดี

     นอกจากนั้นเรายังต้องออกกำลังกาย  ผู้คนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาไม่ออกกำลังกาย  เราพบปัญหามากมายเกี่ยวกับโรคอ้วนเพราะการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการไม่ออกกำลังกาย  การออกกำลังกายเป็นองค์ประกอบสำคัญในแง่ของสุขภาพโดยรวมและระบบภูมิคุ้มกัน  เรารู้ว่าคนที่ออกกำลังกายโดยทั่วไปจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น

     องค์ประกอบที่ 3 คือการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ  หากคุณนอนหลับเพียงพอนั่นจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น  มันยากมากในปัจจุบันเพราะทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์อยู่ข้างเตียงคุณ  หากคุณนอนไม่หลับคุณจะเริ่มมองโทรศัพท์  และนั่นก็ช่วยกระตุ้นสมองของคุณและคุณก็ไม่สามารถนอนหลับได้  ในขณะเดียวกัน เมื่อคุณลดปริมาณการนอนหลับ ระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็จะลดลง เมื่อคุณรวมสิ่งนี้เข้าด้วยกัน คุณก็กำลังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอ

    คำแนะนำของผม  เพื่อที่คุณจะได้มีการนอนหลับเพียงพอ และออกกำลังกายอย่างเพียงพอ  สำหรับคนส่วนใหญ่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอคือ 30 นาทีต่อวัน และกินให้ถูกต้อง  ข้อเสนอแนะสำหรับการกินที่ถูกต้องในแง่ของผลไม้และผักคือการทานผักผลไม้ 5 ถ้วยต่อวัน  หากคุณทำสิ่งเหล่านั้นและบริโภค ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ เพื่อสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันของคุณ หรือกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณ  ผมคิดว่าคุณจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมาก

 

     Dr. Vallmer จัดงานสัมมนาทางวิทยาศาสตร์เรื่อง 'ทรานเฟอร์แฟคเตอร์ และระบบภูมิคุ้มกันของคุณ' ที่โรงแรมเชอราตันเปตาลิงจายา ประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 2561

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2