สารสกัดกระเทียม
ลดระดับคอเลสเตอรอล
ทำลายเชื้อโรค แบคทีเรีย
ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิต้านทาน
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวอยู่ใต้ดิน หัวมีลักษณะเป็นกลีบหลายๆ กลีบเกาะกันแน่น แต่ละกลีบมีเยื่อบางๆ สีขาว หรือขาวอมชมพูหุ้มอยู่ ใบมีลักษณะแบบเรียวแหลม สีเขียว ลักษณะคล้ายใบหญ้า ดอกมีสีขาวเป็นช่อเล็กๆ เป็นกระจุกแบบซี่ร่ม
มีการนำหัวกระเทียมมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคกันมาแต่โบราณในหลายประเทศ สูตรยาโบราณและยาพื้นบ้าน กล่าวว่า กระเทียมถูกใช้เพื่อเป็นยาขับลม ยาขับเสมหะ ใช้ยับยั้งการแข็งตัวของเกล็ดเลือด และแก้อาการชักกระตุก การรับประทานกระเทียมสดทุบทั้งกลีบ จะช่วยเรื่องอาการอ่อนเพลีย สมรรถภาพทางเพศ และรักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
สำหรับสูตรโบราณจะใช้โดยการทานกระเทียมแบบสดๆ ทั้งกลีบ หรือคั้นเอาน้ำมาดื่ม หรือต้มกินกับนม หรือนำมาทุบพอกรักษาโรคผิวหนัง
มาจนกระทั่งยุคปัจจุบัน หลายสิบปีที่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์รายงานออกมาหลายๆ งาน เป็นที่น่าเชื่อถือว่าให้ผลดีในการรักษาโรคได้หลายชนิด โดยมีการวิจัยทดลองทั้งในสัตว์ทดลองและในคนแล้ว พบว่า สาระสำคัญในกระเทียมสดมีประโยชน์ต่อร่างกาย
จนมีการทำเป็นกระเทียมอัดเม็ด หรือน้ำมันกระเทียมในรูปแบบแคปซูล และรูปแบบอื่นๆ เพื่อสะดวกในการใช้ และขจัดกลิ่นฉุนจากที่ต้องทานสด ๆ ในปริมาณมาก
สารสำคัญในกระเทียม
- น้ำมันกระเทียม มีอยู่ประมาณ 0.1-0.4% ประกอบด้วยสารอินทรีย์กำมะถันจำนวนมากมาย ที่สำคัญได้แก่
- อัลลิอิน (Alliin), อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นน้ำมันใสไม่มีสี ละลายน้ำได้
- สารไดอัลลิลไตรซัลไฟต์ (Dially Trisulfide), เมททิลอัลลิลไตรซัลไฟต์ (Methyl Allyl Trisulfide), อัลลิลโปรปิลไดซัลไฟท์ (Allyl Propyl Disulfide)
- เอนไซม์หลายชนิด เช่น อัลลิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เปลี่ยนอัลลิอินให้เป็นอัลลิซิน นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ Peroxidase, Invertase, Tyrosinase
- นอกจากนี้ในหัวกระเทียมยังประกอบด้วยโปรตีนน้ำตาล กรดไขมัน กรดอะมิโน แร่ธาต และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามิน ซี
ประโยชน์ของกระเทียมในการรักษาโรค
- ลดระดับคอเลสเตอรอล ไดซัลไฟต์สามารถลดระดับโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ในเลือดได้ภายในระยะสั้น คือ 4-12 สัปดาห์ โดยมีข้อมูลงานวิจัยหลายชิ้นให้การรับรองอย่างหนักแน่น แต่จะมีการเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) หรือไม่นั้นยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ยังต้องมีการพิสูจน์ต่อไป
- ยับยั้งการจับตัวของเกล็ดเลือด มีงานวิจัยนำไปลดความดันโลหิตได้ประมาณ 10 มิลลิเมตรปรอท ทำให้ผนังหลอดเลือดสะอาดขึ้น จึงมีผลดีต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือดสัตว์ทดลอง และทำให้สัตว์หลั่งอินซูลินมากขึ้น ในคนนั้นมีบางรายบอกว่ากระเทียมช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ แต่ก็มีรายงานที่ขัดแย้งกันว่า ไม่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ทั้งในคนปกติและคนที่เป็นโรคเบาหวาน
- ทำลายเชื้อโรค
- อัลลิซิน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบางตัว และลดการอักเสบได้ ป้องกันโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น ฆ่าเชื้อรา กลากเกลื้อน ข้อมูลการใช้กระเทียมสด ทาผิวหนังบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนนั้นได้รับการยอมรับมานาน ทั้งการแพทย์แผนไทยและในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์
- อัลลิอิน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบางตัว มีการนำไปใช้กับผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน แล้วใช้ได้ผล
- ป้องกันมะเร็ง ในกระเทียมมีซิลิเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมการทำงานของร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ กำจัดสารก่อมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะสาร Aflatoxin ที่มาจากถั่ว ลดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ อนุมูลอิสระไปลดไขมันชนิดเลวได้ด้วย
- กระตุ้นภูมิต้านทาน กำมะถันซึ่งมีอยู่ในปริมาณสูง ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย ลดอาการหวัด อาการแพ้ ภาวะติดเชื้อง่าย ทำลายเชื้อโรค ป้องกันโรคผิวหนังหลายชนิด บำรุงข้อต่อและกล้ามเนื้อ และกำจัดสารพิษอีกด้วย
- ย่อยอาหาร เอนไซม์ในหัวกระเทียมช่วยย่อยอาหาร
ผลข้างเคียง
ยังไม่มีใครพบความเป็นพิษแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรังจากการใช้กระเทียมเลย ยกเว้นการที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง กลิ่นของกระเทียมสามารถซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและแพร่กระจายไปตามรูขุมขนของร่างกาย จึงมีกลิ่นกระเทียมออกมาทางปากและทางผิวหนัง เป็นกลิ่นตัวที่มีกลิ่นกระเทียม
มีรายงานอาการแพ้กระเทียมบ้าง เช่น คนที่แพ้หอมหัวใหญ่อาจจะแพ้กระเทียมด้วย โดยมีผื่นตามผิวหนัง หรือผิวหนังไหม้คล้ายกับไหม้แดด การทาผิวหนังเพื่อฆ่าเชื้อราอาจเกิดผื่นแดงได้สำหรับคนที่แพ้กระเทียม
บางคนที่แพ้กระเทียมแล้วมีอาการน้ำตาไหล น้ำมูกไหล หอบหืด มึนงง ปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก มีไข้ ทำให้ลำคอไหม้ เกิดลมในท้อง ท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาจมีอาการขย้อนและปวดแสบปวดร้อนยอกอก
โดยอาจมีอาการอย่างเดียวหรือหลายอย่างก็ได้ อาการเหล่านี้ที่เป็นจะหายไปเมื่อเลิกใช้กระเทียม
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
บีซีวี (BCV) : บำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ, ลดไขมันหลอดเลือด, ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น