วิตามินและแร่ธาตุสำหรับผู้ชาย
วิตามินและแร่ธาตุเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ ช่วยในการเจริญเติบโตและทำให้ระบบต่างๆของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ ซึ่งความต้องการวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเพศหญิงและเพศชายนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป เนื่องจากสภาวะร่างกายที่แตกต่างกัน
ในเพศชายมีความต้องการวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดมากเป็นพิเศษ เช่น แร่ธาตุสังกะสี หรือ Zinc ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย และยังมีผลทำให้ความสามารถในการรับรสและกลิ่นดีขึ้นด้วย วิตามินและแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยลดอันตรายจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากกระบวนการเมตบอลิซึ่มในร่างกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสัมผัสมลภาวะที่เป็นพิษ อนุมูลอิสระมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ ความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือภาวะแก่ก่อนวัยอันควร ฯลฯ อีกทั้งการได้รับวิตามินบีอย่างเพียงพอ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง ที่มีผลมาจาก Homocysteine ดังนั้นการได้รับวิตามินและแร่ธาตุรวมที่เหมาะสมสำหรับผู้ชาย ช่วยส่งผลถึงการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายให้เป็นปกติ และเป็นการเพิ่มคุณภาพให้ชีวิตดีขึ้นอีกด้วย
วิตามินและแร่ธาตุที่เพศชายควรได้รับในชีวิตประจำวันมีดังต่อไปนี้
วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยบำรุงสายตา กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมและรักษาเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย
วิตามินซี (Vitamin C) มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะผู้ชายที่สูบบุหรี่จัด วิตามินซีจะช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ การเกิดเซลล์มะเร็ง จำเป็นต่อการการสร้างคอลลาเจน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในการต้านเชื้อแบคทีเรีย
วิตามินดี (Vitamin D) ช่วยให้ร่างกายเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสไปใช้เสริมสร้างกระดูกและฟันได้ดีขึ้น
วิตามินอี (Vitamin E) มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 มีความสำคัญในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน เกี่ยวของกับการทำงานของระบบประสาทและเอนไซม์ต่างๆในร่างกาย บำรุงสมอง คลายเครียด ช่วยให้อวัยวะรับสัมผัสทำงานดีขึ้น วิตามินบีจะให้ผลดีเมื่อทำงานร่วมกันหลายๆชนิด ดังนั้น การทำงานของวิตามินบีรวม จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้เดี่ยวๆ
กรดโฟลิค (Folic Acid) จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และบรรเทาภาวะซึมเศร้า
ไบโอติน (Biotin) ช่วยเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน มีส่วนสำคัญในระบบการสร้างสารพันธุกรรม ทำให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์ผิวหนัง ผม และเล็บใหม่ทดแทนเซลล์เก่า ป้องกันอาการเล็บเปราะ
แคลเซียม ( Calcium) จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในผู้ชายที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนักๆ แคลเซียมจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจ และกล้ามเนื้อ
เหล็ก (Iron) เหล็กมีส่วนช่วยในการสร้างฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยขนส่งออกซิเจนเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) มีบทบาทร่วมกันกับแคลเซียมในการช่วยสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ไอโอดีน (Iodine) เร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลให้เป็นพลังงานโดยผ่านทางการทำงานของไทรอยด์ฮอร์โมน
แมกนีเซียม(Magnerium) มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
สังกะสี (Zinc) ซิงค์เป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย จำเป็นต่อการสร้างเอนไซม์ super oxide dismutase ซึ่งออกฤทธิ์เป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยสมานแผล
ซิลิเนียม (Selenium) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดต่อมลูกหมากโต โดยทำงานร่วมกับวิตามินอีและสังกะสิ
ทองแดง (Copper) ทองแดงมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างฮีโมโกลบินในร่างกาย การสมานแผลและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ การสร้างสีผมและผิวหนัง
แมงกานีส (Manganess) เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด การสร้างฮอร์โมนเพศ และการทำงานของระบบประสาท
โครเมียม (Chromium) เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการสะสมไขมันในร่างกาย
คลอไรด์ (Chloride) รักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย รักษาสมดุลเกลือแร่และความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อหัวใจ
นิกเกิล (Nikle) เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์ ช่วยในการเผาผลาญกรดอะมิโน และกรดไขมันในร่างกาย
ซิลิคอน (Silicon) จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้กระดูก เอ็น ผนังเลือด เส้นผม และเล็บ มีความแข็งแรง